การดูแลผู้ป่วยติดเตียงอย่างถูกต้อง พร้อมวิธีป้องกันภาวะแทรกซ้อน

การดูแลผู้ป่วยติดเตียงอย่างถูกต้อง พร้อมวิธีป้องกันภาวะแทรกซ้อน

การดูแลผู้ป่วยติดเตียงอย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นและส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย การดูแลที่เหมาะสมจะช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึกสบายตัว ลดความเสี่ยงในการเกิดแผลกดทับ การติดเชื้อ และภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ

หลักการดูแลผู้ป่วยติดเตียงอย่างถูกต้อง

  1. การพลิกตัวและเปลี่ยนท่า
    • ควรพลิกตัวผู้ป่วยทุก 2 ชั่วโมง เพื่อลดแรงกดทับบนผิวหนังและป้องกันการเกิดแผลกดทับ
    • ใช้หมอนหรืออุปกรณ์ช่วยในการจัดท่า เพื่อให้ผู้ป่วยอยู่ในท่าที่สบายและเหมาะสม
  2. การดูแลผิวหนัง
    • ทำความสะอาดผิวหนังของผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอด้วยน้ำอุ่นและสบู่อ่อนโยน
    • ทาโลชั่นหรือครีมบำรุงผิว เพื่อให้ผิวหนังชุ่มชื้นและป้องกันการแตกแห้ง
    • ตรวจดูผิวหนังของผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอ เพื่อหารอยแดง รอยถลอก หรือรอยแผล
  3. การดูแลเรื่องอาหารและน้ำ
    • ให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และครบถ้วนตามหลักโภชนาการ
    • ให้ผู้ป่วยดื่มน้ำอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำและท้องผูก
    • หากมีสายให้อาหารควรใช้อาหารฝึกกลืนก่อนให้อาหารทางสาย 1 ชั่วโมง แล้วก้มคอบ้วนปากให้สะอาด ขณะทานอาหาร ไม่ควรเคร่งเรื่องมารยาท และหมั่นพูดคุยให้ตื่นตัว ไม่รีบป้อนอาหารขณะฝึกกลืน ควรให้ผู้ป่วยก้มคอขณะกลืนอาหารที่ป้อน ห้ามแหงนคอไปด้านหลัง และหยุดป้อนทันทีหากมีอาการสำลัก ขณะรับประทานอาหารผู้ป่วยต้องนั่งให้หัวสูงหรือปรับเตียงขึ้นมาในระดับ 30-90 องศา  
  4. การดูแลเรื่องการขับถ่าย
    • สังเกตการขับถ่ายของผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันภาวะท้องผูกหรือท้องเสีย
    • หากผู้ป่วยมีปัญหาในการขับถ่าย ควรปรึกษาแพทย์หรือพยาบาล
  5. การทำกายภาพบำบัด
    • ทำกายภาพบำบัดให้ผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันภาวะข้อติดและกล้ามเนื้อลีบ
    • การทำกายภาพบำบัดควรทำภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญ
  6. การดูแลทางเดินหายใจ
    • จัดท่าให้ผู้ป่วยนอนในท่าที่เหมาะสม เพื่อให้หายใจได้สะดวก
    • หากผู้ป่วยมีเสมหะ ควรดูดเสมหะออกอย่างสม่ำเสมอ
  7. การดูแลด้านจิตใจ
    • พูดคุยและให้กำลังใจผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอ
    • สร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและสบายใจให้กับผู้ป่วย
  8. การป้องกันการติดเชื้อ
    • ผู้ป่วยติดเตียงควรอยู่ในห้องที่อากาศถ่ายเทสะดวก เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ
    • รักษาความสะอาดของสิ่งแวดล้อมรอบตัวผู้ป่วย
    • ล้างมือให้สะอาดก่อนและหลังการดูแลผู้ป่วย

ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นในผู้ป่วยติดเตียง

  • แผลกดทับ
  • การติดเชื้อ
  • ภาวะข้อติดและกล้ามเนื้อลีบ
  • ภาวะแทรกซ้อนทางระบบทางเดินหายใจ
  • ภาวะแทรกซ้อนทางระบบทางเดินปัสสาวะ
  • ภาวะแทรกซ้อนทางระบบทางเดินอาหาร
  • ภาวะแทรกซ้อนทางจิตใจ

การป้องกันภาวะแทรกซ้อน

  • การพลิกตัวและเปลี่ยนท่าอย่างสม่ำเสมอ
  • การดูแลผิวหนังอย่างเหมาะสม
  • การให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และครบถ้วน
  • การทำกายภาพบำบัดอย่างสม่ำเสมอ
  • การดูแลทางเดินหายใจอย่างเหมาะสม
  • การดูแลด้านจิตใจของผู้ป่วย

ข้อควรระวัง

  • ควรปรึกษาแพทย์หรือพยาบาล เพื่อขอคำแนะนำในการดูแลผู้ป่วยติดเตียงอย่างถูกต้อง
  • หากพบอาการผิดปกติใดๆ ในผู้ป่วย ควรแจ้งให้แพทย์หรือพยาบาลทราบทันที

การดูแลผู้ป่วยติดเตียงอย่างถูกต้องและเหมาะสม จะช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ

ภาวะแทรกซ้อนที่พบบ่อยในผู้ป่วยติดเตียง: ความท้าทายในการดูแล

ผู้ป่วยติดเตียงต้องเผชิญกับความท้าทายด้านสุขภาพมากมาย เนื่องจากการเคลื่อนไหวที่จำกัดและการนอนอยู่บนเตียงเป็นเวลานาน ทำให้พวกเขามีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่โดยรวม การตระหนักถึงภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้และการป้องกันอย่างเหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญในการดูแลผู้ป่วยติดเตียง

ภาวะแทรกซ้อนที่พบบ่อยในผู้ป่วยติดเตียง

  1. แผลกดทับ
    • เกิดจากการกดทับของผิวหนังและเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังเป็นเวลานาน ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวกและเกิดการตายของเซลล์
    • มักเกิดขึ้นบริเวณปุ่มกระดูก เช่น ส้นเท้า สะโพก และหลัง
  2. การติดเชื้อ
    • ผู้ป่วยติดเตียงมีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ ระบบทางเดินปัสสาวะ และผิวหนัง
    • การติดเชื้อเหล่านี้อาจรุนแรงและเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
  3. ภาวะข้อติดและกล้ามเนื้อลีบ
    • การไม่ได้เคลื่อนไหวเป็นเวลานาน ทำให้ข้อต่อแข็งและกล้ามเนื้ออ่อนแรง
    • ส่งผลให้ผู้ป่วยเคลื่อนไหวลำบากและมีอาการปวด
  4. ภาวะแทรกซ้อนทางระบบทางเดินหายใจ
    • การนอนอยู่บนเตียงเป็นเวลานาน ทำให้ปอดขยายตัวได้ไม่เต็มที่และเสมหะคั่งค้าง
    • เสี่ยงต่อการเกิดปอดอักเสบและภาวะหายใจล้มเหลว
  5. ภาวะแทรกซ้อนทางระบบทางเดินปัสสาวะ
    • การนอนอยู่บนเตียงทำให้ปัสสาวะไหลเวียนไม่สะดวกและเสี่ยงต่อการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ
    • อาจทำให้เกิดนิ่วในไตและกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
  6. ภาวะแทรกซ้อนทางระบบทางเดินอาหาร
    • การเคลื่อนไหวที่ลดลงทำให้ระบบทางเดินอาหารทำงานช้าลงและเสี่ยงต่อการท้องผูก
    • อาจทำให้เกิดภาวะลำไส้อุดตันและปัญหาการย่อยอาหาร
  7. ภาวะแทรกซ้อนทางจิตใจ
    • การนอนอยู่บนเตียงเป็นเวลานานทำให้ผู้ป่วยรู้สึกโดดเดี่ยวและหดหู่
    • เสี่ยงต่อการเกิดภาวะซึมเศร้าและวิตกกังวล

การป้องกันภาวะแทรกซ้อน

  • การพลิกตัวและเปลี่ยนท่าอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดแรงกดทับบนผิวหนัง
  • การดูแลผิวหนังอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันการติดเชื้อและแผลกดทับ
  • การทำกายภาพบำบัดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันภาวะข้อติดและกล้ามเนื้อลีบ
  • การดูแลทางเดินหายใจอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ
  • การดูแลเรื่องการขับถ่าย เพื่อป้องกันภาวะท้องผูกและปัญหาทางเดินปัสสาวะ
  • การดูแลด้านจิตใจของผู้ป่วย เพื่อป้องกันภาวะซึมเศร้าและวิตกกังวล

ข้อควรระวัง

  • ควรปรึกษาแพทย์หรือพยาบาล เพื่อขอคำแนะนำในการดูแลผู้ป่วยติดเตียงอย่างถูกต้อง
  • หากพบอาการผิดปกติใดๆ ในผู้ป่วย ควรแจ้งให้แพทย์หรือพยาบาลทราบทันที

การดูแลผู้ป่วยติดเตียงอย่างถูกต้องและเหมาะสม จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ และช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

การดูแลผู้ป่วยติดเตียงอย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย และป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น การดูแลอย่างเหมาะสมจะช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึกสบายตัว ลดความเสี่ยงในการเกิดแผลกดทับ การติดเชื้อ และภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ

หลักการดูแลผู้ป่วยติดเตียงอย่างถูกต้อง

  1. การพลิกตัวและเปลี่ยนท่า
    • พลิกตัวผู้ป่วยทุก 2 ชั่วโมง เพื่อลดแรงกดทับบนผิวหนังและป้องกันการเกิดแผลกดทับ
    • ใช้หมอนหรืออุปกรณ์ช่วยในการจัดท่า เพื่อให้ผู้ป่วยอยู่ในท่าที่สบายและเหมาะสม
  2. การดูแลผิวหนัง
    • ทำความสะอาดผิวหนังของผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอด้วยน้ำอุ่นและสบู่อ่อนโยน
    • ทาโลชั่นหรือครีมบำรุงผิว เพื่อให้ผิวหนังชุ่มชื้นและป้องกันการแตกแห้ง
    • ตรวจดูผิวหนังของผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอ เพื่อหารอยแดง รอยถลอก หรือรอยแผล
  3. การดูแลเรื่องอาหารและน้ำ
    • ให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และครบถ้วนตามหลักโภชนาการ
    • ให้ผู้ป่วยดื่มน้ำอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำและท้องผูก
    • หากมีสายให้อาหารควรใช้อาหารฝึกกลืนก่อนให้อาหารทางสาย 1 ชั่วโมง แล้วก้มคอบ้วนปากให้สะอาด ขณะทานอาหาร ไม่ควรเคร่งเรื่องมารยาท และหมั่นพูดคุยให้ตื่นตัว ไม่รีบป้อนอาหารขณะฝึกกลืน ควรให้ผู้ป่วยก้มคอขณะกลืนอาหารที่ป้อน ห้ามแหงนคอไปด้านหลัง และหยุดป้อนทันทีหากมีอาการสำลัก ขณะรับประทานอาหารผู้ป่วยต้องนั่งให้หัวสูงหรือปรับเตียงขึ้นมาในระดับ 30-90 องศา  
  4. การดูแลเรื่องการขับถ่าย
    • สังเกตการขับถ่ายของผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันภาวะท้องผูกหรือท้องเสีย
    • หากผู้ป่วยมีปัญหาในการขับถ่าย ควรปรึกษาแพทย์หรือพยาบาล
  5. การทำกายภาพบำบัด
    • ทำกายภาพบำบัดให้ผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันภาวะข้อติดและกล้ามเนื้อลีบ
    • การทำกายภาพบำบัดควรทำภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญ
  6. การดูแลทางเดินหายใจ
    • จัดท่าให้ผู้ป่วยนอนในท่าที่เหมาะสม เพื่อให้หายใจได้สะดวก
    • หากผู้ป่วยมีเสมหะ ควรดูดเสมหะออกอย่างสม่ำเสมอ
  7. การดูแลด้านจิตใจ
    • พูดคุยและให้กำลังใจผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอ
    • สร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและสบายใจให้กับผู้ป่วย
  8. การป้องกันการติดเชื้อ
    • รักษาความสะอาดของสิ่งแวดล้อมรอบตัวผู้ป่วย
    • ล้างมือให้สะอาดก่อนและหลังการดูแลผู้ป่วย

ข้อควรระวัง

  • ควรปรึกษาแพทย์หรือพยาบาล เพื่อขอคำแนะนำในการดูแลผู้ป่วยติดเตียงอย่างถูกต้อง
  • หากพบอาการผิดปกติใดๆ ในผู้ป่วย ควรแจ้งให้แพทย์หรือพยาบาลทราบทันที

การดูแลผู้ป่วยติดเตียงอย่างถูกต้องและเหมาะสม จะช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ

การดูแลด้านร่างกายของผู้ป่วยติดเตียงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันภาวะแทรกซ้อน และช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น การดูแลอย่างเหมาะสมจะช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึกสบายตัว ลดความเสี่ยงในการเกิดแผลกดทับ การติดเชื้อ และภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ

หลักการดูแลด้านร่างกายของผู้ป่วยติดเตียง

  1. การพลิกตัวและเปลี่ยนท่า
    • พลิกตัวผู้ป่วยทุก 2 ชั่วโมง เพื่อลดแรงกดทับบนผิวหนังและป้องกันการเกิดแผลกดทับ
    • ใช้หมอนหรืออุปกรณ์ช่วยในการจัดท่า เพื่อให้ผู้ป่วยอยู่ในท่าที่สบายและเหมาะสม
    • ควรสลับท่าทางของผู้ป่วยระหว่างท่านอนหงาย ตะแคงซ้าย และตะแคงขวา เพื่อกระจายแรงกดทับ
  2. การดูแลผิวหนัง
    • ทำความสะอาดผิวหนังของผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอด้วยน้ำอุ่นและสบู่อ่อนโยน
    • ทาโลชั่นหรือครีมบำรุงผิว เพื่อให้ผิวหนังชุ่มชื้นและป้องกันการแตกแห้ง
    • ตรวจดูผิวหนังของผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอ เพื่อหารอยแดง รอยถลอก หรือรอยแผล โดยเฉพาะบริเวณปุ่มกระดูก เช่น ส้นเท้า สะโพก และหลัง
    • หากพบรอยแดง ควรใช้หมอนหรืออุปกรณ์รองบริเวณนั้น เพื่อลดแรงกดทับ
  3. การดูแลเรื่องอาหารและน้ำ
    • ให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และครบถ้วนตามหลักโภชนาการ โดยเน้นโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุ
    • ให้ผู้ป่วยดื่มน้ำอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำและท้องผูก
    • หากผู้ป่วยมีปัญหาในการกลืน ควรเลือกอาหารอ่อนนุ่ม หรืออาหารเหลว
    • หากผู้ป่วยมีสายให้อาหาร ควรดูแลความสะอาดของสาย และสังเกตอาการผิดปกติ
  4. การดูแลเรื่องการขับถ่าย
    • สังเกตการขับถ่ายของผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันภาวะท้องผูกหรือท้องเสีย
    • หากผู้ป่วยมีปัญหาในการขับถ่าย ควรปรึกษาแพทย์หรือพยาบาล
    • หากผู้ป่วยใส่สายสวนปัสสาวะ ควรดูแลความสะอาดของสาย และสังเกตอาการติดเชื้อ
  5. การทำกายภาพบำบัด
    • ทำกายภาพบำบัดให้ผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันภาวะข้อติดและกล้ามเนื้อลีบ
    • การทำกายภาพบำบัดควรทำภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญ
    • การออกกำลังกายอาจทำได้โดยการขยับแขนขาของผู้ป่วย หรือใช้เครื่องช่วยออกกำลังกาย
  6. การดูแลทางเดินหายใจ
    • จัดท่าให้ผู้ป่วยนอนในท่าที่เหมาะสม เพื่อให้หายใจได้สะดวก เช่น ท่านอนศีรษะสูง
    • หากผู้ป่วยมีเสมหะ ควรดูดเสมหะออกอย่างสม่ำเสมอ
    • หากผู้ป่วยมีปัญหาในการหายใจ ควรปรึกษาแพทย์หรือพยาบาล
  7. การป้องกันการติดเชื้อ
    • รักษาความสะอาดของสิ่งแวดล้อมรอบตัวผู้ป่วย
    • ล้างมือให้สะอาดก่อนและหลังการดูแลผู้ป่วย
    • หากผู้ป่วยมีแผล ควรทำความสะอาดแผลอย่างสม่ำเสมอ และปิดแผลด้วยผ้าก๊อซสะอาด

อุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการดูแลผู้ป่วยติดเตียง

  • เตียงผู้ป่วย
  • ที่นอนลม หรือที่นอนลดแรงกดทับ
  • หมอนและอุปกรณ์ช่วยในการจัดท่า
  • ผ้าอ้อมผู้ใหญ่
  • ถุงมือยาง
  • อุปกรณ์ทำความสะอาดผิวหนัง
  • โลชั่นหรือครีมบำรุงผิว
  • อุปกรณ์ทำความสะอาดช่องปาก
  • อุปกรณ์ดูดเสมหะ (หากจำเป็น)
  • อุปกรณ์ทำแผล (หากจำเป็น)

ข้อควรระวัง

  • ควรปรึกษาแพทย์หรือพยาบาล เพื่อขอคำแนะนำในการดูแลผู้ป่วยติดเตียงอย่างถูกต้อง
  • หากพบอาการผิดปกติใดๆ ในผู้ป่วย ควรแจ้งให้แพทย์หรือพยาบาลทราบทันที

การดูแลด้านร่างกายของผู้ป่วยติดเตียงอย่างถูกต้องและเหมาะสม จะช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ

การดูแลด้านจิตใจของผู้ป่วยติดเตียงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย และช่วยให้ผู้ป่วยมีกำลังใจในการต่อสู้กับโรค การดูแลอย่างเหมาะสมจะช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึกผ่อนคลาย ลดความเครียด และความวิตกกังวล

หลักการดูแลด้านจิตใจของผู้ป่วยติดเตียง

  1. การสร้างสัมพันธภาพที่ดี
    • พูดคุยกับผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอ โดยใช้คำพูดที่ให้กำลังใจและแสดงความห่วงใย
    • รับฟังความคิดเห็นและความรู้สึกของผู้ป่วยอย่างตั้งใจ
    • สร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและเป็นกันเอง
    • แสดงความรักและความเอาใจใส่ผ่านการสัมผัส เช่น การจับมือ หรือการกอด
  2. การให้กำลังใจ
    • ให้กำลังใจผู้ป่วยในการต่อสู้กับโรค
    • ชื่นชมผู้ป่วยในความพยายามและความอดทน
    • สร้างความหวังและแรงบันดาลใจให้กับผู้ป่วย
  3. การส่งเสริมกิจกรรม
    • ส่งเสริมให้ผู้ป่วยทำกิจกรรมที่ชอบ เช่น การฟังเพลง การดูโทรทัศน์ หรือการอ่านหนังสือ
    • หากผู้ป่วยสามารถทำกิจกรรมได้เอง ควรให้ผู้ป่วยมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ
    • หากผู้ป่วยไม่สามารถทำกิจกรรมได้เอง ผู้ดูแลควรช่วยเหลือผู้ป่วยในการทำกิจกรรม
  4. การดูแลอารมณ์
    • สังเกตอารมณ์ของผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอ
    • หากผู้ป่วยมีอารมณ์เศร้าหรือหงุดหงิด ควรพูดคุยและให้กำลังใจ
    • หากผู้ป่วยมีอาการซึมเศร้า ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยา
  5. การดูแลด้านความเชื่อ
    • เคารพความเชื่อทางศาสนาของผู้ป่วย
    • หากผู้ป่วยต้องการทำพิธีกรรมทางศาสนา ผู้ดูแลควรให้ความช่วยเหลือ
    • หากผู้ป่วยต้องการพูดคุยกับนักบวช ผู้ดูแลควรประสานงานให้

ข้อควรระวัง

  • ควรหลีกเลี่ยงการพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องที่ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกไม่สบายใจ
  • ควรหลีกเลี่ยงการแสดงอารมณ์เชิงลบต่อหน้าผู้ป่วย
  • ควรให้ความสำคัญกับการดูแลตนเองของผู้ดูแล เพื่อป้องกันภาวะหมดไฟ

กิจกรรมที่ช่วยดูแลด้านจิตใจ

  • การพูดคุย: การพูดคุยกับผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึกไม่โดดเดี่ยว และช่วยให้ผู้ป่วยระบายความรู้สึก
  • การฟังเพลง: การฟังเพลงที่ผู้ป่วยชอบ จะช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึกผ่อนคลาย และช่วยลดความเครียด
  • การอ่านหนังสือ: การอ่านหนังสือให้ผู้ป่วยฟัง จะช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึกเพลิดเพลิน และช่วยกระตุ้นความคิด
  • การดูโทรทัศน์: การดูโทรทัศน์รายการที่ผู้ป่วยชอบ จะช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึกผ่อนคลาย และช่วยให้ผู้ป่วยไม่รู้สึกเบื่อ
  • การทำกิจกรรมทางศาสนา: การทำกิจกรรมทางศาสนา จะช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึกสงบ และช่วยให้ผู้ป่วยมีกำลังใจ

การดูแลด้านจิตใจของผู้ป่วยติดเตียงอย่างถูกต้องและเหมาะสม จะช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และมีกำลังใจในการต่อสู้กับโรค

การป้องกันภาวะแทรกซ้อนในผู้ป่วยติดเตียงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย และช่วยให้ผู้ป่วยมีกำลังใจในการต่อสู้กับโรค การดูแลอย่างเหมาะสมจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้ป่วย

วิธีป้องกันภาวะแทรกซ้อนในผู้ป่วยติดเตียง

  1. การพลิกตัวและเปลี่ยนท่า
    • พลิกตัวผู้ป่วยทุก 2 ชั่วโมง เพื่อลดแรงกดทับบนผิวหนังและป้องกันการเกิดแผลกดทับ
    • ใช้หมอนหรืออุปกรณ์ช่วยในการจัดท่า เพื่อให้ผู้ป่วยอยู่ในท่าที่สบายและเหมาะสม
    • สลับท่าทางของผู้ป่วยระหว่างท่านอนหงาย ตะแคงซ้าย และตะแคงขวา เพื่อกระจายแรงกดทับ
  2. การดูแลผิวหนัง
    • ทำความสะอาดผิวหนังของผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอด้วยน้ำอุ่นและสบู่อ่อนโยน
    • ทาโลชั่นหรือครีมบำรุงผิว เพื่อให้ผิวหนังชุ่มชื้นและป้องกันการแตกแห้ง
    • ตรวจดูผิวหนังของผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอ เพื่อหารอยแดง รอยถลอก หรือรอยแผล โดยเฉพาะบริเวณปุ่มกระดูก เช่น ส้นเท้า สะโพก และหลัง
    • หากพบรอยแดง ควรใช้หมอนหรืออุปกรณ์รองบริเวณนั้น เพื่อลดแรงกดทับ
  3. การดูแลเรื่องอาหารและน้ำ
    • ให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และครบถ้วนตามหลักโภชนาการ โดยเน้นโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุ
    • ให้ผู้ป่วยดื่มน้ำอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำและท้องผูก
    • หากผู้ป่วยมีปัญหาในการกลืน ควรเลือกอาหารอ่อนนุ่ม หรืออาหารเหลว
    • หากผู้ป่วยมีสายให้อาหาร ควรดูแลความสะอาดของสาย และสังเกตอาการผิดปกติ
  4. การดูแลเรื่องการขับถ่าย
    • สังเกตการขับถ่ายของผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันภาวะท้องผูกหรือท้องเสีย
    • หากผู้ป่วยมีปัญหาในการขับถ่าย ควรปรึกษาแพทย์หรือพยาบาล
    • หากผู้ป่วยใส่สายสวนปัสสาวะ ควรดูแลความสะอาดของสาย และสังเกตอาการติดเชื้อ
  5. การทำกายภาพบำบัด
    • ทำกายภาพบำบัดให้ผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันภาวะข้อติดและกล้ามเนื้อลีบ
    • การทำกายภาพบำบัดควรทำภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญ
    • การออกกำลังกายอาจทำได้โดยการขยับแขนขาของผู้ป่วย หรือใช้เครื่องช่วยออกกำลังกาย
  6. การดูแลทางเดินหายใจ
    • จัดท่าให้ผู้ป่วยนอนในท่าที่เหมาะสม เพื่อให้หายใจได้สะดวก เช่น ท่านอนศีรษะสูง
    • หากผู้ป่วยมีเสมหะ ควรดูดเสมหะออกอย่างสม่ำเสมอ
    • หากผู้ป่วยมีปัญหาในการหายใจ ควรปรึกษาแพทย์หรือพยาบาล
  7. การป้องกันการติดเชื้อ
    • รักษาความสะอาดของสิ่งแวดล้อมรอบตัวผู้ป่วย
    • ล้างมือให้สะอาดก่อนและหลังการดูแลผู้ป่วย
    • หากผู้ป่วยมีแผล ควรทำความสะอาดแผลอย่างสม่ำเสมอ และปิดแผลด้วยผ้าก๊อซสะอาด

ข้อควรระวัง

  • ควรปรึกษาแพทย์หรือพยาบาล เพื่อขอคำแนะนำในการดูแลผู้ป่วยติดเตียงอย่างถูกต้อง
  • หากพบอาการผิดปกติใดๆ ในผู้ป่วย ควรแจ้งให้แพทย์หรือพยาบาลทราบทันที

การป้องกันภาวะแทรกซ้อนในผู้ป่วยติดเตียงอย่างถูกต้องและเหมาะสม จะช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และมีกำลังใจในการต่อสู้กับโรค

Caregiver กับบริการพาพบแพทย์ของ ไอแคร์

หากท่านกำลังกังวลเรื่องการดูแลผู้ป่วยพักฟื้น ผู้สูงอายุ การกายภาพบำบัด การจัดกิจกรรมบำบัด การชะลอความเสื่อม ให้ ไอแคร์ เวลเนส จำกัดสามารถช่วยท่านดูแล ได้ทั้งระยะสั้น และระยะยาวค่ะ (รายวัน รายเดือน รายสัปดาห์)

สาขาในเมืองอุบล : 25/1 ถนน บูรพานอก ตำบล ปทุม อำเภอเมืองอุบลราชธานี อุบลราชธานี 34000
MAP : https://maps.app.goo.gl/N1QevUBZrx3Jcsae8
สาขาห้วยวังนอง : 318/118 บ้านค้อเหนือ หมู่12, ตำบล กุดลาด อำเภอเมืองอุบลราชธานี อุบลราชธานี 34000
MAP : https://maps.app.goo.gl/3mfAELzrGKt24G3D9

*********************************
ติดต่อสอบถามเพื่อขอรับบริการ
ไอแคร์ เวเนส จำกัด
ไอแคร์ เวลเนส เซ็นเตอร์
โทร : 066-112-9500
ไอแคร์ เนอร์สซิ่งโฮมอุบลฯ – i Care
โทร : 066-109-4500
Line : @icare-nursing (มี@)
อินบล็อกสอบถามได้ตลอด 24 ชั่วโมง
*********************************
#ไอแคร์ เวลเนส เซ็นเตอร์ #ไอแคร์ เนอร์สซิ่งโฮมอุบลฯ – i Care

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถ อ่านนโยบายความเป็นส่วนตัว