โรคเบาหวาน ภัยเงียบที่ใคร ๆ ก็เสี่ยงเป็นได้

โรคเบาหวาน ภัยเงียบที่ใคร ๆ ก็เสี่ยงเป็นได้

ใครบ้าง? เสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน

หากจะผู้ว่าใครเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานตอบได้เลยว่าเสี่ยงกันทุกคนและทุกวัยจริงๆสำหรับโรคนี้ สายหวานไม่ถูกใจสิ่งนี้! แน่นอนวันนี้ “ศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพไอแคร์ ” นำเสนอบทความเกี่ยวกับโรคเบาหวาน ว่าคืออะไร มีกี่ประเภท วิธีการสังเกตตัวเองว่าสุ่มเสี่ยงจะเป็นเบาหวานนั้นมีข้อสังเกตอะไรบ้าง พร้อมแนะแนวทางการรักษา ป้องกัน ทำอย่างไรให้อยู่ห่างไกลโรคเบาหวาน

โรคเบาหวานเป็นโรคเรื้อรังที่เกิดจากระดับน้ำตาลในเลือดสูงผิดปกติ เนื่องจากการทำงานของอินซูลินในร่างกายผิดปกติ แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักคือ โรคเบาหวานชนิดที่ 1 และชนิดที่ 2 ทั้งนี้สามารถตรวจเบาหวานได้โดยการตรวจน้ำตาลในเลือดหลังงดอาหารประมาณ 8 ชั่วโมง หากระดับน้ำตาลในเลือดมากกว่าหรือเท่ากับ 126 มก.ต่อเดซิลิตร หรือตรวจค่าน้ำตาลสะสมได้มากกว่า 6.5% ก็เข้าเกณฑ์ของโรคเบาหวาน

ชนิดของโรคเบาหวาน

  • โรคเบาหวานชนิดที่ 1 เกิดจากภูมิคุ้มกันร่างกายทำลายเซลล์สร้างอินซูลินในตับอ่อน ทำให้เกิดภาวะขาดอินซูลิน กรณีนี้มักพบกับเด็ก
  • โรคเบาหวานชนิดที่ 2 เกิดจากภาวะการลดลงของการสร้างอินซูลิน ร่วมกับภาวะดื้ออินซูลิน และมักเป็นกรรมพันธุ์ หรือในผู้ใหญ่ ผู้ที่มีน้ำหนักเกิน หรือ อ้วน
  • โรคเบาหวานชนิดพิเศษ สาเหตุของโรคเบาหวานชนิดนี้อาจเกิดจากความความผิดปกติของตับอ่อน โรคต่อมไร้ท่อ หรือยาสเตียรอยด์ เป็นต้น  หรือเป็นโรคที่เกี่ยวกับการทำงานที่ผิดปกติของอินซูลินโดยกำเนิด
  • โรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ เกิดขึ้นขณะตั้งครรภ์และหายไปได้หลังคลอดบุตร แต่มีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ในอนาคต

ใครบ้างที่เสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน?

  • กลุ่มที่มีปัจจัยทางพันธุกรรม
    หากครอบครัวมีประวัติเป็นโรคเบาหวาน โอกาสเสี่ยงเพิ่มขึ้น เนื่องจากพันธุกรรมมีบทบาทสำคัญ
  • ผู้ที่มีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสม
    • การบริโภคอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันสูง
      การรับประทานอาหารที่มีน้ำตาล ไขมัน หรือแป้งสูงอย่างต่อเนื่อง อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานได้
    • การไม่ออกกำลังกาย
      การไม่ออกกำลังกายทำให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานน้อยลง น้ำตาลในเลือดจึงสะสมมากขึ้น
  • ผู้ที่มีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน
    โรคอ้วนส่งผลต่อการทำงานของอินซูลิน ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง
  • ผู้ที่มีอายุเพิ่มขึ้น
    อายุที่เพิ่มขึ้นจะเพิ่มโอกาสเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุมากกว่า 45 ปี

โรคเบาหวานเป็นภาวะที่สามารถป้องกันได้ด้วยการดูแลสุขภาพ การออกกำลังกาย และการตรวจสุขภาพเป็นประจำ กลุ่มเสี่ยงควรระวังและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อหลีกเลี่ยงโรคนี้

การป้องกันโรคเบาหวาน

  • การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต
    การใช้ชีวิตที่สมดุล เช่น การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกาย และการหลีกเลี่ยงความเครียด ช่วยลดความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • การเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสม
    • ลดน้ำตาลและไขมันในอาหาร
      หลีกเลี่ยงการบริโภคน้ำตาลและไขมันทรานส์ เช่น ขนมหวาน น้ำอัดลม และอาหารทอด
    • เพิ่มผักและผลไม้ในมื้ออาหาร
      เลือกผักผลไม้ที่มีกากใยสูง เช่น แครอท ผักโขม และแอปเปิล เพื่อช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือด
  • การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
    การออกกำลังกาย เช่น การเดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน หรือโยคะ ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดและเพิ่มความไวของอินซูลิน
  • การตรวจสุขภาพประจำปี
    การตรวจระดับน้ำตาลในเลือดอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยง เช่น มีน้ำหนักเกิน หรือมีประวัติครอบครัวเป็นโรคเบาหวาน

โรคเบาหวาน ภัยเงียบที่ใคร ๆ ก็เสี่ยงเป็นได้

ความสำคัญของการดูแลผู้ป่วยเบาหวาน

  • ทำไมการดูแลผู้ป่วยเบาหวานถึงสำคัญ?
    ผู้ป่วยเบาหวานมีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน เช่น โรคหัวใจ โรคไต และการติดเชื้อ หากไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสม อาจทำให้อาการแย่ลงและเป็นอันตรายถึงชีวิต
  • เป้าหมายของการดูแลผู้ป่วยเบาหวาน
    ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน และส่งเสริมคุณภาพชีวิต

การดูแลผู้ป่วยเบาหวานในชีวิตประจำวัน

  • การควบคุมอาหารสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน
    • เลือกอาหารที่มีดัชนีน้ำตาลต่ำ
      เช่น ธัญพืชไม่ขัดสี ผักใบเขียว และโปรตีนจากปลา
    • หลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันสูง
      เช่น ขนมหวาน น้ำอัดลม และอาหารทอด
  • การออกกำลังกายที่เหมาะสม
    • การเดินเร็วหรือปั่นจักรยาน
      ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและลดระดับน้ำตาลในเลือด
    • โยคะและการฝึกสมาธิ
      ช่วยลดความเครียดและเพิ่มความยืดหยุ่นของร่างกาย
  • การตรวจสุขภาพและติดตามอาการ
    • ตรวจระดับน้ำตาลในเลือดอย่างสม่ำเสมอ
      เพื่อปรับการรักษาและป้องกันภาวะแทรกซ้อน
    • พบแพทย์ตามนัดหมาย
      เพื่อประเมินอาการและปรับแผนการรักษา

การดูแลด้านจิตใจสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน

  • การจัดการความเครียด
    ความเครียดอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้น ผู้ป่วยควรเรียนรู้การผ่อนคลาย เช่น การฝึกหายใจลึก ๆ หรือการนั่งสมาธิ
  • การสนับสนุนจากครอบครัว
    ครอบครัวควรมีบทบาทในการให้กำลังใจและช่วยเหลือผู้ป่วยในกิจวัตรประจำวัน

การกายภาพบำบัดหลังผ่าตัดรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมในผู้ป่วยเบาหวาน

  • ความเชื่อมโยงระหว่างเบาหวานและข้อเข่าเสื่อม
    ผู้ป่วยเบาหวานมักมีปัญหาเกี่ยวกับข้อเข่า เนื่องจากระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงส่งผลต่อเนื้อเยื่อข้อต่อ
  • การฟื้นฟูหลังการผ่าตัดข้อเข่าเสื่อม
    • การเริ่มกายภาพบำบัดทันทีหลังผ่าตัด
      ช่วยลดอาการบวมและเพิ่มการเคลื่อนไหวของข้อ
    • การฝึกเดินด้วยอุปกรณ์ช่วยเดิน
      เพื่อเสริมความมั่นคงและลดความเสี่ยงในการล้ม
  • การดูแลสุขภาพหลังการฟื้นฟู
    • การออกกำลังกายแบบเบา ๆ
      เช่น การยืดเหยียดหรือว่ายน้ำ เพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
    • การติดตามอาการกับนักกายภาพบำบัด
      เพื่อปรับแผนการฟื้นฟูตามความคืบหน้า

การดูแลผู้ป่วยเบาหวานไม่ให้เป็นหนักต้องอาศัยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เช่น การควบคุมอาหาร การออกกำลังกาย และการจัดการความเครียด นอกจากนี้ หากผู้ป่วยมีปัญหาเกี่ยวกับข้อเข่าเสื่อม การฟื้นฟูด้วยกายภาพบำบัดจะช่วยให้กลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติ

โรคเบาหวาน ภัยเงียบที่ใคร ๆ ก็เสี่ยงเป็นได้

การจ้างคนดูแลผู้ป่วยโรคเบาหวานหรือเจ้าหน้าที่ Caregiver ดีอย่างไร

ความสำคัญของการมีคนดูแลผู้ป่วยโรคเบาหวาน

  • ช่วยแบ่งเบาภาระของครอบครัว
    การดูแลผู้ป่วยโรคเบาหวานต้องใช้เวลาและความใส่ใจในรายละเอียด เช่น การจัดอาหาร การเตรียมยา และการติดตามสุขภาพ การจ้างเจ้าหน้าที่ช่วยลดภาระนี้ได้อย่างมาก
  • ให้การดูแลที่เป็นมืออาชีพ
    เจ้าหน้าที่ Caregiver มีความรู้เกี่ยวกับโรคเบาหวาน สามารถช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และสังเกตอาการผิดปกติได้อย่างทันท่วงที

บทบาทของเจ้าหน้าที่ Caregiver ในการดูแลผู้ป่วยเบาหวาน

  • การจัดการด้านอาหารและโภชนาการ
    • วางแผนเมนูอาหารที่เหมาะสม
      Caregiver สามารถจัดเมนูที่ช่วยควบคุมระดับน้ำตาล เช่น อาหารที่มีดัชนีน้ำตาลต่ำ
    • ตรวจสอบปริมาณน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตในอาหาร
      ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด
  • การติดตามสุขภาพประจำวัน
    • ตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือด
      ช่วยประเมินสถานการณ์และแจ้งแพทย์ในกรณีที่มีความผิดปกติ
    • ดูแลการรับประทานยาและอินซูลิน
      ให้แน่ใจว่าผู้ป่วยได้รับยาตามกำหนด

ประโยชน์ของการจ้างเจ้าหน้าที่ Caregiver

  • เพิ่มความมั่นใจในการดูแล
    การมีมืออาชีพช่วยดูแลทำให้ครอบครัวมั่นใจว่าผู้ป่วยได้รับการดูแลที่เหมาะสม
  • ช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อน
    การติดตามสุขภาพอย่างใกล้ชิดช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน เช่น โรคหัวใจและโรคไต
  • ส่งเสริมสุขภาพจิตของผู้ป่วย
    Caregiver ช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึกได้รับการดูแลเอาใจใส่ ลดความเครียดและความวิตกกังวล

การจ้างคนดูแลผู้ป่วยโรคเบาหวานหรือเจ้าหน้าที่ Caregiver เป็นทางเลือกที่ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตทั้งสำหรับผู้ป่วยและครอบครัว เจ้าหน้าที่สามารถให้การดูแลที่เหมาะสม ช่วยลดภาวะแทรกซ้อน และส่งเสริมการฟื้นฟูสุขภาพอย่างยั่งยืน

โรคเบาหวานการป้องกัน การรักษา และการฟื้นฟู

โรคเบาหวานเป็นภาวะที่ระดับน้ำตาลในเลือดสูงผิดปกติ ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรง เช่น โรคหัวใจ ไตเสื่อม และการติดเชื้อ

การป้องกัน

  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ และธัญพืชไม่ขัดสี
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เช่น เดินเร็วหรือโยคะ
  • หลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันสูง รวมถึงการสูบบุหรี่และแอลกอฮอล์
  • ตรวจสุขภาพประจำปีเพื่อประเมินความเสี่ยง

การรักษา

  • ใช้ยาและอินซูลินตามคำแนะนำของแพทย์
  • ปรับพฤติกรรมการกินอาหาร ลดน้ำตาลและไขมันในมื้ออาหาร
  • จัดการความเครียดด้วยการทำสมาธิหรือผ่อนคลาย

การฟื้นฟู

  • สำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะแทรกซ้อน เช่น ข้อเข่าเสื่อม การกายภาพบำบัดช่วยฟื้นฟูการเคลื่อนไหว
  • การออกกำลังกายเบา ๆ เช่น ว่ายน้ำหรือการยืดเหยียด ช่วยเสริมความแข็งแรง

การดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์จะช่วยควบคุมโรคเบาหวาน ลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน และมีชีวิตที่สมบูรณ์แข็งแรงมากขึ้น!

โรคเบาหวานเป็นโรคเรื้อรัง และพบอุบัติการณ์การเกิดโรคเพิ่มขึ้นทุกวัน แม้จะเป็นโรคที่ก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ตามมาได้มากมาย แต่ก็เป็นโรคที่สามารถควบคุมได้ หากผู้ป่วยทำความเข้าใจกับตัวโรค และให้ความร่วมมือในการรักษา ก็จะทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีใกล้เคียงกับคนปกติได้

 

หากท่านกำลังกังวลเรื่องการดูแลผู้ป่วยพักฟื้น ผู้สูงอายุ การกายภาพบำบัด การจัดกิจกรรมบำบัด การชะลอความเสื่อม ให้ ไอแคร์ เวลเนส จำกัด
สามารถช่วยท่านดูแล ได้ทั้งระยะสั้น และระยะยาวค่ะ (รายวัน รายเดือน รายสัปดาห์)

สาขาในเมืองอุบล : 25/1 ถนน บูรพานอก ตำบล ปทุม อำเภอเมืองอุบลราชธานี อุบลราชธานี 34000
MAP : https://maps.app.goo.gl/N1QevUBZrx3Jcsae8
สาขาห้วยวังนอง : 318/118 บ้านค้อเหนือ หมู่12, ตำบล กุดลาด อำเภอเมืองอุบลราชธานี อุบลราชธานี 34000
MAP : https://maps.app.goo.gl/3mfAELzrGKt24G3D9

*********************************
ติดต่อสอบถามเพื่อขอรับบริการ
ไอแคร์ เวเนส จำกัด
ไอแคร์ เวลเนส เซ็นเตอร์
โทร : 066-112-9500
ไอแคร์ เนอร์สซิ่งโฮมอุบลฯ – i Care
โทร : 066-109-4500
Line : @icare-nursing (มี@)
อินบล็อกสอบถามได้ตลอด 24 ชั่วโมง
*********************************
#ไอแคร์ เวลเนส เซ็นเตอร์ #ไอแคร์ เนอร์สซิ่งโฮมอุบลฯ – i Care  #ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ #อุบลราชธานี #ผู้สูงอายุ #กายภาพ #ดูแลสุขภาพ #ผู้ช่วยพยาบาล #อำนาจเจริญ #ยโสธร #ศรีสะเกษ #ดูแลผู้สูงอายุ #เนอร์สซิ่งโฮม #ประกันสุขภาพ #โรงพยาบาลสรรพสิทธิ์ #อุบลรักษ์ #โรงพยาบาลพริ้นซ์อุบลราชธานี #โรงพยาบาลราชเวช #ไอแคร์ #ศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพทุกช่วงวัย #ศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพและการดูแลผู้สูงอายุ #ดูแลผู้สูงอายุ #กายภาพ #ดูแลคนชรา #ดูแลคนแก่ #ดูแลผู้ป่วยพักฟื้น #ห้องพักฟื้น #กิจกรรมบำบัด

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่