ภาวะกลืนลำบาก (Dysphagia) คืออะไร เช็ก 9 อาการสัญญาณอันตราย

ภาวะกลืนลำบาก

ภาวะกลืนลำบาก ผลเสียต่อผู้สูงอายุ

ภาวะกลืนลำบาก: ภัยเงียบที่คุกคามผู้สูงอายุ

ภาวะกลืนลำบาก หรือ Dysphagia เป็นภาวะที่ผู้สูงอายุมักพบเจอ และเป็นปัญหาที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตอย่างมาก ภาวะนี้เกิดจากความผิดปกติของกล้ามเนื้อและระบบประสาทที่ควบคุมการกลืน ทำให้อาหารและของเหลวเคลื่อนที่จากปากลงสู่กระเพาะอาหารได้ยากขึ้น

ทำไมภาวะกลืนลำบากถึงน่ากังวลในผู้สูงอายุ?

  • ภาวะขาดสารอาหาร: เมื่อกลืนลำบาก ผู้สูงอายุจะรับประทานอาหารได้น้อยลง ส่งผลให้ร่างกายได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ อ่อนเพลีย และเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
  • ปอดอักเสบจากการสำลัก: อาหารหรือของเหลวอาจเข้าสู่ทางเดินหายใจ ทำให้เกิดการอักเสบของปอด ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิต
  • ภาวะซึมเศร้า: การรับประทานอาหารเป็นกิจกรรมที่สำคัญในการสร้างปฏิสัมพันธ์ทางสังคม เมื่อกลืนลำบาก ผู้สูงอายุอาจรู้สึกโดดเดี่ยวและซึมเศร้า
  • ลดความสามารถในการดูแลตนเอง: ภาวะกลืนลำบากทำให้ผู้สูงอายุต้องพึ่งพาผู้อื่นในการดูแลมากขึ้น ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตและความเป็นอิสระ

สัญญาณบ่งบอกว่าผู้สูงอายุอาจมีภาวะกลืนลำบาก

  • ไอหรือสำลักขณะกลืน
  • น้ำลายไหล
  • เสียงแหบหรือเปลี่ยนแปลง
  • อาหารค้างในปากหรือคอ:
  • น้ำหนักลด:
  • ปฏิเสธอาหาร:
  • เจ็บคอเมื่อกลืน:

สาเหตุของภาวะกลืนลำบากในผู้สูงอายุ

  • โรคหลอดเลือดสมอง: เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้กล้ามเนื้อที่ควบคุมการกลืนอ่อนแรง
  • โรคปาร์กินสัน: ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวและการควบคุมกล้ามเนื้อ
  • มะเร็งในช่องปาก คอ หรือหลอดอาหาร: ก้อนเนื้องอกอาจกีดขวางทางเดินอาหาร
  • การผ่าตัดในบริเวณคอหรือหัวใจ: อาจทำให้เส้นประสาทที่ควบคุมการกลืนเสียหาย
  • ยาบางชนิด: ยาบางชนิดอาจมีผลข้างเคียงทำให้เกิดภาวะกลืนลำบาก

การรักษาและดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะกลืนลำบาก

  • การประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญ: แพทย์จะทำการประเมินเพื่อหาสาเหตุและความรุนแรงของภาวะกลืนลำบาก
  • การปรับเปลี่ยนอาหาร: ปรับเปลี่ยนลักษณะของอาหารให้มีเนื้อนิ่ม มีน้ำซอส หรือบดละเอียด เพื่อให้ง่ายต่อการกลืน
  • การฝึกกลืน: นักกายภาพบำบัดจะสอนเทคนิคการกลืนที่ถูกต้อง
  • การให้อาหารทางสาย: ในกรณีที่รุนแรง อาจจำเป็นต้องให้อาหารทางสายยาง
  • การใช้ยา: แพทย์อาจจ่ายยาเพื่อบรรเทาอาการ

การป้องกันภาวะกลืนลำบาก

  • ดูแลสุขภาพช่องปาก: ทำความสะอาดช่องปากเป็นประจำ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์: เลือกอาหารที่มีใยอาหารสูง เพื่อช่วยในการเคลื่อนไหวของลำไส้
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและระบบภูมิคุ้มกัน
  • พบแพทย์เป็นประจำ: เพื่อตรวจสุขภาพและติดตามอาการ

ภาวะกลืนลำบากเป็นปัญหาที่สามารถรักษาและบรรเทาได้ การดูแลเอาใจใส่ผู้สูงอายุและการปรึกษาแพทย์อย่างทันท่วงที จะช่วยให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ภาวะกลืนลำบาก เกิดจากอะไร? ในผู้สูงอายุ

ภาวะกลืนลำบากในผู้สูงอายุ: สาเหตุและผลกระทบ

ภาวะกลืนลำบากหรือ Dysphagia เป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและสุขอนามัยอย่างมาก การทำความเข้าใจสาเหตุของภาวะนี้จะช่วยให้เราสามารถดูแลผู้สูงอายุได้อย่างเหมาะสม

สาเหตุของภาวะกลืนลำบากในผู้สูงอายุ

ภาวะกลืนลำบากเกิดจากความผิดปกติของกล้ามเนื้อและระบบประสาทที่ควบคุมการกลืน ทำให้อาหารและของเหลวเคลื่อนที่จากปากลงสู่กระเพาะอาหารได้ยากขึ้น สาเหตุหลักๆ ที่พบในผู้สูงอายุ ได้แก่:

  • โรคทางระบบประสาท:
    • โรคหลอดเลือดสมอง: เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้กล้ามเนื้อที่ควบคุมการกลืนอ่อนแรง
    • โรคพาร์กินสัน: ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวและการควบคุมกล้ามเนื้อ
    • โรคอัลไซเมอร์: ทำให้ความสามารถในการควบคุมการกลืนลดลง
  • โรคมะเร็ง: มะเร็งในช่องปาก คอ หรือหลอดอาหาร อาจกีดขวางทางเดินอาหาร
  • การผ่าตัด: การผ่าตัดในบริเวณคอหรือหัวใจ อาจทำให้เส้นประสาทที่ควบคุมการกลืนเสียหาย
  • ยาบางชนิด: ยาบางชนิดมีผลข้างเคียงทำให้เกิดภาวะกลืนลำบาก
  • ภาวะติดเชื้อในช่องปาก: เช่น แผลในปาก หรือเชื้อรา ทำให้การกลืนเจ็บปวด
  • ปัญหาทางกายวิภาค: เช่น ฟันผุ ฟันปลอมหลวม หรือลิ้นมีขนาดเล็กลง

ผลกระทบจากภาวะกลืนลำบาก

  • ภาวะขาดสารอาหาร: เมื่อกลืนลำบาก ผู้สูงอายุจะรับประทานอาหารได้น้อยลง ส่งผลให้อ่อนเพลียและเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
  • ปอดอักเสบจากการสำลัก: อาหารหรือของเหลวอาจเข้าสู่ทางเดินหายใจ ทำให้เกิดการอักเสบของปอด ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิต
  • ภาวะซึมเศร้า: การรับประทานอาหารเป็นกิจกรรมที่สำคัญในการสร้างปฏิสัมพันธ์ทางสังคม เมื่อกลืนลำบาก ผู้สูงอายุอาจรู้สึกโดดเดี่ยวและซึมเศร้า
  • ลดความสามารถในการดูแลตนเอง: ภาวะกลืนลำบากทำให้ผู้สูงอายุต้องพึ่งพาผู้อื่นในการดูแลมากขึ้น ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตและความเป็นอิสระ

การป้องกันและรักษา

  • พบแพทย์: เพื่อตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม
  • ปรับเปลี่ยนอาหาร: ปรับเปลี่ยนลักษณะของอาหารให้มีเนื้อนิ่ม มีน้ำซอส หรือบดละเอียด
  • การฝึกกลืน: นักกายภาพบำบัดจะสอนเทคนิคการกลืนที่ถูกต้อง
  • การให้อาหารทางสาย: ในกรณีที่รุนแรง อาจจำเป็นต้องให้อาหารทางสายยาง
  • การใช้ยา: แพทย์อาจจ่ายยาเพื่อบรรเทาอาการ

การดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะกลืนลำบากต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทั้งแพทย์ พยาบาล นักกายภาพบำบัด และคนในครอบครัว

9 อาการสัญญาณอันตรายที่บ่งบอกว่าผู้สูงอายุอาจมีปัญหาในการกลืน

นอกจากนี้ Dysphasia ยังมักเกิดในผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวอย่าง เนื้องอก พาร์กินสัน (Parkinson) ซึ่งกระทบกับการใช้ชีวิตของผู้ป่วย เช่น

  • หายใจติดขัด หายใจไม่ออก
  • สำลักหลังรับประทานอาหาร หรือดื่มน้ำ (อาหารหรือของเหลวเข้าสู่หลอดลม)
  • ไอระหว่างหรือหลังกลืนอาหารหรือน้ำ
  • สำลักน้ำลาย
  • เสียงแหบ เครือ หรือเบา หลังจากกลืน
  • เจ็บหรือแสบร้อนกลางหน้าอก
  • น้ำลายไหลมากกว่าปกติ
  • เคี้ยวลำบาก
  • กลืนลำบากอาจนำไปสู่ปอดติดเชื้อจากการสำลักได้

วิธีการดูแลรักษาผู้ป่วย Dysphagia (ภาวะกลืนลำบาก)

ภาวะกลืนลำบาก หรือ Dysphagia เป็นปัญหาสุขภาพที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตอย่างมาก การดูแลผู้ป่วยจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่าย ทั้งแพทย์ พยาบาล นักกิจกรรมบำบัด และผู้ดูแลใกล้ชิด

วิธีการดูแลรักษาผู้ป่วย Dysphagia

  • การประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญ:
    • แพทย์จะทำการประเมินหาสาเหตุของภาวะกลืนลำบาก
    • นักกิจกรรมบำบัดจะประเมินความสามารถในการกลืน และออกแบบโปรแกรมการฝึกฝนที่เหมาะสม
  • ปรับเปลี่ยนอาหาร:
    • เปลี่ยนแปลงลักษณะของอาหาร: ทำให้อาหารมีเนื้อนิ่ม มีน้ำซอส หรือบดละเอียด
    • เลือกชนิดของอาหาร: เลือกอาหารที่ง่ายต่อการกลืน เช่น โจ๊ก ปั่น ผลไม้บด
    • ควบคุมปริมาณอาหาร: ป้อนอาหารทีละน้อย ไม่รีบร้อน
  • การฝึกกลืน:
    • ฝึกกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับการกลืน: เช่น การบริหารลิ้น การเคลื่อนไหวขากรรไกร
    • ฝึกท่าทางในการกลืน: จัดท่าให้นั่งตัวตรง ศีรษะตั้ง
    • ฝึกการกลืนร่วมกับการหายใจ: เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการกลืน
  • การให้อาหารทางสาย:
    • ในกรณีที่ผู้ป่วยไม่สามารถรับประทานอาหารทางปากได้ อาจจำเป็นต้องให้อาหารทางสายยาง
  • การใช้ยา:
    • แพทย์อาจจ่ายยาเพื่อบรรเทาอาการ เช่น ยาลดกรด ยาลดการอักเสบ
  • การดูแลสุขภาพช่องปาก:
    • ทำความสะอาดช่องปากเป็นประจำ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
  • การดูแลสุขภาพทั่วไป:
    • ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์
    • ออกกำลังกายเบาๆ อย่างสม่ำเสมอ
  • การดูแลจิตใจ:
    • ให้กำลังใจผู้ป่วย ช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึกผ่อนคลาย

ข้อควรระวังในการดูแลผู้ป่วย Dysphagia

  • ป้องกันการสำลัก:
    • ป้อนอาหารทีละน้อย
    • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้ป่วยกลืนอาหารหมดก่อนจะป้อนคำต่อไป
    • หลีกเลี่ยงการพูดคุยขณะรับประทานอาหาร
  • สังเกตอาการ:
    • สังเกตอาการไอ สำลัก หรือเจ็บคอขณะกลืน
    • หากมีอาการผิดปกติ ควรรีบปรึกษาแพทย์

การดูแลผู้ป่วย Dysphagia จำเป็นต้องอาศัยความอดทนและความเข้าใจ การทำงานร่วมกันระหว่างผู้ป่วย ครอบครัว และทีมแพทย์ จะช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

กลืนลำบากในผู้สูงอายุ ส่งผลเสียอย่างไรบ้าง?

ภาวะกลืนลำบากในผู้สูงอายุเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตอย่างมาก และอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงได้ หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่รักษา โดยผลเสียที่สำคัญของภาวะกลืนลำบาก ได้แก่

  • ภาวะขาดสารอาหาร: เมื่อผู้สูงอายุกลืนลำบาก จะทำให้รับประทานอาหารได้น้อยลง ส่งผลให้ร่างกายได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ อ่อนเพลีย และเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
  • ปอดอักเสบจากการสำลัก: อาหารหรือของเหลวที่กลืนลงไปอาจเข้าสู่ทางเดินหายใจ ทำให้เกิดการอักเสบของปอด ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิต
  • ภาวะซึมเศร้า: การรับประทานอาหารเป็นกิจกรรมที่สำคัญในการสร้างปฏิสัมพันธ์ทางสังคม เมื่อกลืนลำบาก ผู้สูงอายุอาจรู้สึกโดดเดี่ยวและซึมเศร้า
  • ลดความสามารถในการดูแลตนเอง: ภาวะกลืนลำบากทำให้ผู้สูงอายุต้องพึ่งพาผู้อื่นในการดูแลมากขึ้น ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตและความเป็นอิสระ
  • เพิ่มความเสี่ยงในการเสียชีวิต: ผู้สูงอายุที่มีภาวะกลืนลำบากมักจะมีโรคประจำตัวอื่นๆ ร่วมด้วย การได้รับสารอาหารไม่เพียงพอและการติดเชื้อ ทำให้ร่างกายอ่อนแอลงและมีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตสูงขึ้น

นอกจากนี้ ภาวะกลืนลำบากยังส่งผลกระทบต่อด้านอื่นๆ ดังนี้

  • การสื่อสาร: ผู้สูงอายุบางรายอาจมีปัญหาในการพูดหรือสื่อสาร เนื่องจากกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับการพูดและการกลืนทำงานร่วมกัน
  • สุขอนามัยในช่องปาก: การมีอาหารค้างอยู่ในช่องปากอาจทำให้เกิดการติดเชื้อในช่องปากได้
  • คุณภาพชีวิต: ภาวะกลืนลำบากทำให้ผู้สูงอายุไม่สามารถเพลิดเพลินกับการรับประทานอาหารได้ และอาจรู้สึกวิตกกังวลเกี่ยวกับการกิน

ดังนั้น หากสังเกตเห็นว่าผู้สูงอายุมีอาการกลืนลำบาก ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที

หากท่านสนใจรับบริการฟื้นฟูร่างกายควบคู่กับการดูแลทางด้านจิตใจ ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

สาขาในเมืองอุบล : 25/1 ถนน บูรพานอก ตำบล ปทุม อำเภอเมืองอุบลราชธานี อุบลราชธานี 34000
MAP : https://maps.app.goo.gl/N1QevUBZrx3Jcsae8
สาขาห้วยวังนอง : 318/118 บ้านค้อเหนือ หมู่12, ตำบล กุดลาด อำเภอเมืองอุบลราชธานี อุบลราชธานี 34000
MAP : https://maps.app.goo.gl/3mfAELzrGKt24G3D9

*********************************
ติดต่อสอบถามเพื่อขอรับบริการ
ไอแคร์ เวเนส จำกัด
ไอแคร์ เวลเนส เซ็นเตอร์
โทร : 066-112-9500
ไอแคร์ เนอร์สซิ่งโฮมอุบลฯ – i Care
โทร : 066-109-4500
Line : @icare-nursing (มี@)
อินบล็อกสอบถามได้ตลอด 24 ชั่วโมง
*********************************
#ไอแคร์ เวลเนส เซ็นเตอร์ #ไอแคร์ เนอร์สซิ่งโฮมอุบลฯ – i Care

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถ อ่านนโยบายความเป็นส่วนตัว